ทุกโรงเรียนจำเป็นต้องมีสมาคมผู้ปกครองและครู เคยสงสัยไหมครับว่า เพื่ออะไร
สมมติว่า ถ้าเรามีลูกหลานแล้วส่งไปเข้าโรงเรียน แต่วันหนึ่งพบว่าเขาโดนครูเฆี่ยนตีจนบาดเจ็บเกินเหตุ หรือโดยเพื่อนกลั่นแกล้งหนัก หรือโดนกระทำอื่นๆ เราจะร้องเรียนอย่างไรดี
เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย ยังไม่มีการถ่ายคลิปวีดีโอแล้วเอาไปลงสื่อได้ ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งสมาคมผู้ปกครองและครูขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่สอดส่องสวัสดิภาพของนักเรียนและครูโดยเฉพาะ ยังเป็นการรวมกลุ่มของผู้ปกครอง เพื่อต่อรองหรือจับตาดูการทำงานของครูให้ถูกต้องเหมาะสมด้วย
ดังนั้นบทบาทหน้าที่ในภาพรวม ได้แก่
- เพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพอันดี ระหว่างผู้ปกครองและครู ในการสร้างความเข้าใจนักเรียนให้มากขึ้น
2. ส่งเสริมการศึกษา ศีลธรรม วัฒนธรรม สังคม สวัสดิภาพของนักเรียนและครู
3. ดูแลและผลักดันเรื่องสวัสดิการต่างๆ
4. เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสองฝ่าย ไม่ว่าจะเพื่อผลทางวิชาการ ความรู้ หรือเส้นทางอาชีพหลังจบการศึกษา ไปจนถึงระดมทุนในบางโอกาส - บางโรงเรียน จะมีการออกจุลสาร หนังสือเวียน เพื่อให้รับทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆ หรือร่วมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือครูที่มีปัญหา ไปจนถึงงานการกุศล สาธารณะต่างๆ
แล้วใครเป็นสมาชิกได้บ้าง รูปแบบโดยทั่วไปคือ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์ เช่น ผู้ทรงคุณวุติ หรือมักเป็นผู้ที่มีอุปการคุณแก่โรงเรียน ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจึงมีมติให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
2. สมาชิกสามัญส่วนใหญ่แล้วต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ เป็นบิดา มารดา หรือผู้ปกครองนักเรียน ไม่ว่าจะเก่าหรือปัจจุบัน รวมถึงอาจารย์และศิษย์เก่าด้วย
ในบางประเทศที่ระบบการศึกษาเข้มข้น สมาคมผู้ปกครองและครู ค่อนข้างมีบทบาททางสังคมและอำนาจในการกดดันต่อทางโรงเรียนสูงมาก ตัวอย่างเช่น ที่สหรัฐอเมริกา หากเกิดปัญหากับนักเรียน ทางสมาคมของโรงเรียนที่เกิดเรื่อง อาจจะจัดประชุมกันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง มีการเลือกตั้งตัวแทนผู้ปกครองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก็จะให้โหวตเสียงเพื่อดำเนินการต่างๆตามแต่ที่ประชุมเห็นควร
ยิ่งในประเทศญี่ปุ่น จะพบในภาพยนตร์หรือซีรีย์หลายเรื่องว่านี่คือสมาคมที่พวกครูในแต่ละโรงเรียนกลัวมาก เพราะมีอำนาจที่จะร้องเรียนเพื่อขอถอดถอนครูที่กระทำผิดจรรยาบรรณ หรืออาจเสื่อมเสียต่อวิชาชีพ และเสื่อมเสียภาพลักษณ์ ให้ต้องยุติอาชีพได้เลย
อันที่จริงแล้ว การก่อตั้งสมาคมนี้มีเจตนาดีที่จะช่วยเหลือโรงเรียนและครูในการดูแลนักเรียน ซึ่งเป็นลูกหลานของตน อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนด้านวิชาการให้ดีขึ้นด้วย แต่กลายเป็นว่า พวกกรรมการของสมาคมในโรงเรียนหลายแห่ง ได้ถือโอกาสรับเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะ หรือทุจริตอื่นๆ เพราะอ้างกับผู้ปกครองได้ว่า ถ้าไม่จ่าย ก็จะเข้าไม่ได้ ทำให้ช่วงหลังทางหน่วยงานดีเอสไอ เริ่มจัดการตรวจสอบสมาคมหลายโรงเรียนที่มีการร้องเรียนเข้ามาโดยผู้ปกครองหรือจากภายในเอง